ถุงมือกันบาดสำหรับงานคลังสินค้าและโลจิสติกส์ ป้องกันแผลบาดจากกล่องและพาเลท

งานคลังสินค้าและโลจิสติกส์ดูเหมือนไม่อันตรายมาก แต่ความจริงแล้วเต็มไปด้วยความเสี่ยงจาก “ของคม” รอบตัว ทั้งกล่องกระดาษที่ขอบแข็งมีลวดเย็บ พาเลทไม้ที่มีเสี้ยนตะปู รวมถึงคัตเตอร์และสายรัดต่าง ๆ แผลที่เจอบ่อยคือ บาดมือ ถลอก และโดนเสี้ยน/ลวดเย็บตำ
ถ้าเลือกถุงมือผิดประเภท หรือใส่เพียงถุงมือผ้าธรรมดา ความเสี่ยงเหล่านี้แทบไม่ลดลงเลย

บทความนี้จะพาไปรู้จักวิธีเลือก ถุงมือกันบาดสำหรับงานคลังสินค้าและโลจิสติกส์ แบบเข้าใจง่าย ใช้จริงได้ในหน้างาน

1. ความเสี่ยงในคลังสินค้าที่มักทำให้มือบาดเจ็บ

• การเปิด–ปิดกล่องด้วยคัตเตอร์
  เผลอเพียงนิดเดียวใบมีดอาจเฉียดโดนนิ้วหรือหลังมือ

• ยก/ดันกล่องและลังที่มีขอบแข็ง
  ขอบกล่องเสียดสีกับผิวหนังจนถลอกหรือบาดเป็นทางยาว

• จับและขยับพาเลทไม้
  เสี้ยนไม้หรือตะปูโผล่ ทำให้โดนตำหรือบาดลึก

• จัดเรียงสินค้าและผูกสายรัด
  สายรัดพลาสติก/สายรัดเหล็กอาจบาดนิ้วมือได้ง่าย

• ทำงานซ้ำ ๆ ตลอดทั้งวัน
  ยิ่งทำงานนาน มือยิ่งล้า โอกาส “พลาด” จะสูงขึ้น

เพราะฉะนั้น การใส่ถุงมือที่กันบาดได้จริงจึงช่วยลดทั้งแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปจนถึงแผลลึกที่อาจต้องเย็บและลางาน

2. ระดับการกันบาดที่เหมาะกับงานคลังสินค้า

ถุงมือกันบาดมักอ้างอิงมาตรฐาน EN388 มีตัวอักษร A–F แสดงระดับการกันบาด (ยิ่งตัวอักษรหลัง ๆ กันบาดได้มากขึ้น)

สำหรับคลังสินค้า/โลจิสติกส์ส่วนใหญ่ ไม่ได้เจอของคมจัดแบบแผ่นเหล็ก แต่เป็นขอบกล่อง เสี้ยนไม้ สายรัด และใบมีดคัตเตอร์เป็นหลัก จึงแนะนำระดับประมาณนี้

• งานเปิดกล่อง ตัดสายรัด จัดเรียงสินค้า → ระดับ B–C

• งานขนย้ายพาเลทไม้บ่อย ๆ มีเสี้ยนและตะปู → ระดับ C ขึ้นไปจะสบายใจกว่า

ระดับนี้จะให้ความพอดีระหว่าง ความปลอดภัย และ ความคล่องตัว ใส่ทำงานได้ตลอดวันไม่เกะกะ

3. เลือกวัสดุถุงมือให้ตรงลักษณะงาน

วัสดุหลักที่ใช้ทำถุงมือกันบาดในคลังสินค้า เช่น

• เส้นใย HPPE / UHMWPE

  • น้ำหนักเบา กันบาดได้ดี

  • ใส่แล้วไม่อึดอัด เหมาะกับงานที่ต้องใส่ทั้งวัน

• เส้นใยเคฟลาร์ (Kevlar)

  • กันบาดและทนความร้อนได้ดี เหมาะกับคลังที่มีงานใกล้ความร้อนเล็กน้อย

ส่วนของชั้นเคลือบฝ่ามือ (Coating) ควรเลือกตามสภาพหน้างาน

• PU (Polyurethane) – บาง จับของชิ้นเล็กดี เหมาะกับงานหยิบ–จับ–สแกนบ่อย ๆ

• Nitrile – ทนน้ำมันและสารเคลือบพื้นผิว เหมาะกับคลังสินค้าที่มีคราบน้ำมันหรือฝุ่นสกปรก

• Latex – เกาะพื้นผิวดี เหมาะกับกล่องที่พื้นผิวเรียบลื่น แต่ไม่เหมาะกับงานน้ำมันมาก

4. คุณสมบัติที่ควรมองหาในถุงมือกันบาดสำหรับคลังสินค้า

1. บางและกระชับมือ – เพื่อให้หยิบของ หยิบบาร์โค้ดสแกนเนอร์ หรือพิมพ์หน้าจอได้สะดวก

2. มีการเคลือบเฉพาะฝ่ามือและนิ้ว – ช่วยให้จับกล่องและพาเลทได้แน่นขึ้น ลดโอกาสลื่นหลุด

3. ระบายอากาศดี – หลังมือเป็นผ้าถัก (Knitted) เพื่อไม่ให้มืออับเหงื่อในเวรยาว ๆ

4. มีไซซ์ให้เลือกหลายขนาด – เพื่อให้พนักงานใส่ได้กระชับ พอดีมือ ไม่หลวมจนเกะกะ

5. สีที่ต่างจากสินค้า/กล่อง – มองเห็นง่าย ตรวจสอบได้ชัดว่าพนักงาน “ใส่ถุงมือ” ก่อนเข้าพื้นที่ทำงาน

5. แนวทางใช้งานและดูแลให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น

• อบรมวิธีใช้คัตเตอร์และการเปิดกล่องอย่างถูกต้อง ควบคู่กับการใส่ถุงมือ

• ตรวจดูถุงมือเป็นประจำ ถ้ามีรอยขาด รู หรือเคลือบสึกมาก ควรเปลี่ยนทันที

• แบ่งโซนเปลี่ยนและเก็บถุงมือ เพื่อไม่ให้หยิบสลับคู่หรือใช้ถุงมือที่เสื่อมสภาพโดยไม่รู้ตัว

• ซักหรือทำความสะอาดตามคู่มือ เพื่อยืดอายุการใช้งานและรักษามาตรฐานการกันบาด

สรุปท้ายเรื่อง

• งานคลังสินค้าและโลจิสติกส์เสี่ยงต่อ แผลบาดจากกล่อง พาเลทไม้ สายรัด และใบมีดคัตเตอร์ อยู่ตลอดเวลา

• การเลือกถุงมือกันบาดระดับ B–C ถือว่าเหมาะกับภาพรวมงานส่วนใหญ่ ให้ทั้งความปลอดภัยและความคล่องตัว

• วัสดุอย่าง HPPE ร่วมกับการเคลือบฝ่ามือแบบ PU หรือ Nitrile จะช่วยให้จับกล่องได้แน่น ลดการลื่นหลุด และช่วยป้องกันแผลบาดได้จริง

• เมื่อเลือกถุงมือได้เหมาะงานและดูแลอย่างถูกวิธี จะช่วยลดอุบัติเหตุ ลดวันลาป่วย และทำให้ระบบคลังและโลจิสติกส์เดินต่อได้อย่างราบรื่น ปลอดภัยทั้งทีมงานและธุรกิจ

สนใจถุงมือเซฟตี้ ถุงมือกันบาด >>> คลิกที่นี่ <<<
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ Line : @516hquje