รองเท้าเซฟตี้ ดียังไง? คู่มือสั้นสำหรับคนทำงานหน้างาน

ประโยชน์หลัก (Why it matters)
-
ป้องกันแรงกระแทกที่ปลายเท้า: หัวเหล็ก/คอมโพสิตระดับ EN ISO 20345 หรือ ASTM ลดความเสี่ยงนิ้วเท้าบาดเจ็บจากของตก
-
กันการเจาะทะลุพื้น: แผ่นกันทะลุ (Steel/Kevalar) ป้องกันตะปู เศษโลหะ
-
กันลื่นบนพื้นงาน: พื้นรองเท้ามาตรฐาน SRA/SRB/SRC เกาะยึดบนพื้นเปียก น้ำมัน หรือฝุ่นผง
-
ทนสารเคมี/น้ำมัน: ยาง/ไนไตรล์/PU เฉพาะทาง ลดการเสื่อมและลื่น
-
ป้องกันไฟฟ้า: รุ่น EH/ESD ลดความเสี่ยงไฟดูด/ไฟฟ้าสถิตในสายการผลิต
-
ทนความร้อน/สะเก็ดไฟ: พื้น HRO ทนได้ ~300°C และอัปเปอร์กันสะเก็ดเหมาะงานเชื่อม
-
สวมสบายทั้งวัน: โครงสร้างรองรับอุ้งเท้า น้ำหนักเบา ระบายอากาศดี → ทำงานได้นานขึ้น
มาตรฐานที่ควรรู้ (อ่านฉลากให้เป็น)
-
EN ISO 20345: ระดับ SB/S1/S1P/S2/S3 (ยิ่งตัวเลขสูง ฟีเจอร์ครบขึ้น)
-
มาตรฐานกันลื่น: SRA/SRB/SRC
-
ความร้อนพื้นรองเท้า: HRO
-
ไฟฟ้า: EH (Electrical Hazard) / ESD (ควบคุมไฟฟ้าสถิต)
Tips: งานก่อสร้างกลางแจ้งแนะนำอย่างน้อย S3 + SRC; งานอิเล็กทรอนิกส์ดู ESD; งานเชื่อมดู HRO และอัปเปอร์กันสะเก็ด
ประเภทหัวรองเท้า
-
Steel Toe: คุ้มค่า แข็งแรง
-
Composite Toe: เบา ไม่นำไฟฟ้า ไม่ติดสแกนแม่เหล็ก (เหมาะสนามบิน/งานไฟฟ้า)
-
Aluminum Toe: เบากว่าเหล็ก แต่แข็งแรงสูง
เลือกให้ตรงงาน (Quick Guide)
-
ความเสี่ยงหลัก: ของตก/ตะปู/น้ำมัน/ไฟฟ้า/ความร้อน → จับคู่สัญลักษณ์มาตรฐาน
-
สภาพพื้นที่: พื้นมัน-น้ำมัน เลือก SRC; พื้นร้อน เลือก HRO
-
เวลาสวมใส่: ทำงานนาน ๆ หา น้ำหนักเบา + Insole รองรับอุ้งเท้า/ส้น
-
ทรงรองเท้า: Low-cut = คล่องตัว | Boot = กันน้ำ/โคลน/พยุงข้อเท้า
-
งบประมาณ: โฟกัส “มาตรฐาน + ความพอดีเท้า” ก่อนดีไซน์
ความเข้าใจผิดที่พบบ่อย
-
“รองเท้าเซฟตี้ต้องหนัก” → รุ่นคอมโพสิต/โครงสร้างสมัยใหม่ เบา และระบายอากาศดี
-
“พื้นกันลื่น = กันได้ทุกสภาพ” → เลือกให้ตรง SRA/SRB/SRC และเช็คสภาพดอกยางสม่ำเสมอ
-
“คู่เดียวจบทุกงาน” → งานเฉพาะทาง เช่น เชื่อม/ไฟฟ้า/ห้องคลีนรูม ควรมีรุ่นเฉพาะ
การดูแลให้ปลอดภัยและคุ้มค่า
-
ทำความสะอาดคราบน้ำมัน/สารเคมีทันที
-
ผึ่งให้แห้ง อากาศถ่ายเท หลีกเลี่ยงตากแดดจัด
-
เปลี่ยน Insole/เชือก เมื่อยุบหรือขาด
-
ตรวจ ดอกยาง/รอยปริ/แผ่นกันทะลุ ทุกเดือน
-
อายุตามการใช้งาน: โดยเฉลี่ย 12–24 เดือน (ขึ้นกับความหนัก)