รองเท้าแพทย์ พยาบาล เลือกแบบไหนให้ยืนเวรทั้งวันได้ไม่ปวดเท้า

รองเท้าแพทย์ พยาบาล เลือกแบบไหนให้ยืนเวรทั้งวันได้ไม่ปวดเท้า

การยืนเวร เดินขึ้นลงตึกทั้งวัน ทำหัตถการ และต้องพร้อมลุยตลอดเวลา ทำให้ “รองเท้าแพทย์–พยาบาล” ไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่คืออุปกรณ์ที่ช่วยรักษาขา เข่า หลัง และสุขภาพเท้าในระยะยาว ถ้าเลือกคู่ไม่ดี ปวดส้นเท้า ปวดเข่า ปวดหลัง ตามมาแน่นอน

1. เข้าใจลักษณะงานก่อนเลือกซื้อ

ก่อนเลือกซื้อ ลองถามตัวเองก่อนว่า

• ต้อง ยืนหน้าห้องตรวจ / เคาน์เตอร์ / OPD นานแค่ไหน

• ต้อง เดินเร็วหรือวิ่งในวอร์ด บ่อยไหม

• ทำงานใน โซนเสี่ยงเปียก ลื่น หรือโดนสารคัดหลั่ง บ่อยแค่ไหน

• ใส่รองเท้าเฉลี่ยวันละกี่ชั่วโมง (8, 10 หรือ 12 ชั่วโมงขึ้นไป)

คำตอบเหล่านี้จะช่วยให้เลือกพื้นรองเท้า ทรงรองเท้า และวัสดุให้เหมาะกับงานจริง ไม่ใช่แค่ใส่แล้วสวยตอนยืนเฉย ๆ

2. คุณสมบัติหลักของรองเท้าแพทย์–พยาบาลที่ “ต้องมี”

1. พื้นรองเท้านุ่มแต่รับแรงได้ดี

   • มีชั้นโฟม/ยางที่ช่วยซับแรงกระแทก

   • ไม่ยวบจนเสียรูปง่ายเวลาใส่นาน ๆ

2. มีซัพพอร์ตอุ้งเท้า (Arch Support)

   • ช่วยกระจายน้ำหนักทั้งฝ่าเท้า

   • ลดอาการปวดส้นเท้า ปวดฝ่าเท้า และภาวะรองช้ำ

3. พื้นกันลื่น (Slip Resistant)

   • พื้นยางมีลายดอกชัด

   • ยึดเกาะดีบนพื้นเรียบ พื้นห้องผ่าตัด หรือพื้นอาจมีน้ำยาทำความสะอาด

4. น้ำหนักเบา

   • ใส่เดินทั้งวันแล้วไม่รู้สึกถ่วง

   • ยิ่งเวรยาว 10–12 ชม. ยิ่งต้องหลีกเลี่ยงรองเท้าหนัก ๆ

5. ระบายอากาศดี ไม่อับชื้น

   • วัสดุด้านในไม่อมเหงื่อเกินไป

   • ถอดแล้วไม่มีกลิ่นแรง ลดเชื้อราและปัญหาเท้าเหม็น

6. หน้ารองเท้าปิดมิดชิด ป้องกันของมีคม/สารคัดหลั่ง

   • หัวรองเท้าแข็งแรงพอสมควร

   • ปิดนิ้วเท้าเพื่อความปลอดภัยขณะเข็นเตียง/ชนเตียง/โดนอุปกรณ์ตกใส่

3. เลือกทรงรองเท้าให้ตรงสไตล์การทำงาน

3.1 แบบสวม (Clog / Slip-on)

• เหมาะกับ: คนต้องถอด–สวมบ่อย เช่น เข้าออกห้องผ่าตัด หรือเปลี่ยนรองเท้าหน้าห้อง

• ข้อดี: ใส่ง่าย รวดเร็ว น้ำหนักเบา

• ข้อควรระวัง: เลือกแบบที่ส้นไม่หลวมเกินไป จะได้ไม่หลุดเวลาเดินเร็ว ๆ

3.2 แบบรัดส้น / สายปรับ

• เหมาะกับ: งานที่ต้องเดินเร็ว เดินทั้งวันในวอร์ด

• ข้อดี: สายรัดช่วยตรึงเท้าให้มั่นคง ลดโอกาสข้อพลิก

• ข้อควรระวัง: ดูตำแหน่งสายไม่บาดส้นเท้าหรือข้อเท้า

3.3 แบบผูกเชือก (ลักษณะคล้ายสนีกเกอร์สุขภาพ)

• เหมาะกับ: คนที่ต้องการความกระชับเป็นพิเศษ หรือมีปัญหาเท้า (เท้าแบน/เท้าอุ้งสูง)

• ข้อดี: ปรับความแน่นได้ละเอียด

• ข้อควรระวัง: ต้องผูกเชือกให้แน่นพอดี ไม่หลุดง่าย และไม่แน่นจนกดหลังเท้า

4. เลือกไซซ์ให้ถูก ลองให้เป็น

ตอนลองรองเท้า แนะนำให้ลองแบบนี้

• ลองใส่ทั้งสองข้าง และยืนเต็มน้ำหนักตัว

• เว้นหน้าเท้าประมาณ 0.5–1 ซม. ไม่ให้ปลายนิ้วชนหัวรองเท้า

• เดินไป–กลับ ลองเดินเร็ว ๆ หรือเลียนแบบจังหวะเดินทำงานจริง

• สังเกตว่า

  • มีจุดกดทับตรงนิ้วข้าง ๆ หรือข้างเท้าหรือไม่

  • ส้นเท้าหลุดไหมตอนเดิน

  • รู้สึกเมื่อยหน้าแข้งหรือฝ่าเท้าเร็วผิดปกติหรือเปล่า

อย่าคิดว่า “เดี๋ยวใส่ไปเดี๋ยวมันยืด” เพราะสำหรับรองเท้าทำงานยาว ๆ ควรใส่แล้วสบายตั้งแต่วันแรกดีที่สุด

5. ทริกเสริม: ดูแลเท้า + รองเท้าให้พร้อมลุยทุกเวร

• ใช้ถุงเท้าที่ระบายอากาศดี ไม่หนาหนักจนเกินไป

• ถ้าเป็นคนเท้ามีปัญหา (เท้าแบน/ปวดส้นเรื้อรัง) อาจใช้ แผ่นรองเสริม (Insole) ที่ออกแบบเพื่อสุขภาพเท้า

• กลับถึงบ้านแล้วควร ถอดรองเท้า ผึ่งให้แห้ง และเช็ดทำความสะอาด บริเวณพื้นรองเท้าและด้านใน

• สังเกตอาการปวดเท้า/เข่า/หลัง ถ้าเริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อาจถึงเวลาต้องเปลี่ยนคู่ใหม่ แม้รองเท้าจะยังไม่ขาดก็ตาม

การลงทุนกับรองเท้าแพทย์–พยาบาลที่ดี คือการลงทุนกับสุขภาพตัวเองในทุกเวรที่ต้องยืนดูแลคนไข้ ยิ่งเลือกคู่ที่ตรงกับลักษณะงานและสรีระเท้าเราเท่าไหร่ ก็ยิ่งช่วยให้ทำงานได้เต็มที่ โดยไม่ต้องฝืนทนปวดเท้าทุกครั้งที่ลงเวร

สนใจรองเท้าแพทย์ พยาบาล >>> คลิกที่นี่ <<<