ถุงมือกันสารเคมีกับถุงมือยางธรรมดา ต่างกันตรงไหน ใช้ผิดประเภทเสี่ยงอะไรบ้าง

หลายคนคิดว่า “ถุงมือยางก็กันสารเคมีได้เหมือนกัน” แต่ความจริง ถุงมือกันสารเคมี กับ ถุงมือยางธรรมดา ถูกออกแบบคนละวัตถุประสงค์ ถ้าใช้ผิดประเภทอาจทำให้สารเคมี “ซึมผ่าน” จนเกิดการระคายเคือง แผลไหม้ หรือแม้แต่ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ บทความนี้สรุปให้ชัดว่าแตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกแบบไหนให้เหมาะกับงาน
1) ถุงมือยางธรรมดาคืออะไร?
ถุงมือยางธรรมดา (ที่ใช้ทั่วไปในบ้าน/งานทำความสะอาดเบา ๆ) มักออกแบบมาเพื่อ
-
กันสกปรก กันเปียก กันคราบ
-
งานสัมผัสสารไม่รุนแรง หรือสัมผัสไม่นาน
-
เน้นความสะดวก ราคาประหยัด
ข้อจำกัด: ไม่ได้ออกแบบให้ต้านทาน “สารเคมีหลากชนิด” และมักไม่มีข้อมูลมาตรฐานการทดสอบการซึมผ่าน (permeation) แบบชัดเจน
2) ถุงมือกันสารเคมีคืออะไร?
ถุงมือกันสารเคมี (Chemical Resistant Gloves) ออกแบบมาเพื่อ “ป้องกันสารเคมีจริงจัง” โดยคำนึงถึง
-
ชนิดของสาร (กรด ด่าง ตัวทำละลาย น้ำมัน ฯลฯ)
-
เวลาสัมผัส และ อัตราการซึมผ่าน
-
ความหนา/โครงสร้างวัสดุ และความทนทานต่อการฉีกขาด
มักมีการระบุ มาตรฐาน/ผลทดสอบ เช่น EN 374 (ความทนต่อสารเคมี/จุลินทรีย์) พร้อมตารางบอกว่าสารไหนทนได้ระดับไหน
3) ต่างกันตรงไหน? (เทียบแบบเข้าใจง่าย)
วัสดุและความต้านทานต่อสารเคมี
-
ยางธรรมดา: อาจทนได้บางชนิดในระยะสั้น แต่หลายสาร (โดยเฉพาะตัวทำละลาย/น้ำมัน/สารเข้มข้น) ทำให้ยาง “นิ่ม บวม กรอบ หรือขาด” ได้เร็ว
-
กันสารเคมี: เลือกวัสดุให้เหมาะกับสาร เช่น
-
Nitrile (ไนไตรล์): เด่นเรื่องน้ำมัน/สารปิโตรเลียม/งานอุตสาหกรรมทั่วไป
-
Neoprene: ทนกรด/ด่างบางชนิด และทนสภาพงานได้ดี
-
Butyl: เด่นกับไอระเหย/คีโตน/เอสเตอร์
-
PVC: ใช้กับกรด/ด่างบางประเภทและงานทั่วไป (ขึ้นกับสูตรและความหนา)
-
Natural Latex: ยืดหยุ่นดี แต่แพ้ได้ และไม่เหมาะกับสารบางกลุ่ม
-
สรุป: “ถุงมือกันสารเคมีต้องเลือกให้ตรงชนิดสาร” ไม่ใช่ซื้อแบบเดียวใช้ได้ทุกอย่าง
ความหนาและการซึมผ่าน (Permeation)
-
ยางธรรมดา: บางและซึมผ่านได้เร็วเมื่อเจอสารแรง ๆ
-
กันสารเคมี: มักหนากว่า/สูตรวัสดุเฉพาะ มีข้อมูล “ระยะเวลาทน” (breakthrough time)
มาตรฐานและข้อมูลทดสอบ
-
ยางธรรมดา: มักไม่มีตารางสารเคมี/มาตรฐานชัดเจน
-
กันสารเคมี: มีมาตรฐาน/ผลทดสอบให้เลือกใช้งานได้ถูกต้อง (ช่วยลดความเสี่ยง)
4) ใช้ผิดประเภท “เสี่ยงอะไรบ้าง” (สำคัญ)
-
สารเคมีซึมผ่านโดยไม่รู้ตัว
ถุงมือดูเหมือนยังอยู่ แต่สารทะลุเข้ามาแล้ว ทำให้มือสัมผัสสารโดยตรง -
ผิวหนังระคายเคือง/อักเสบ/แพ้สัมผัส (Contact Dermatitis)
เกิดผื่น คัน แดง แสบ โดยเฉพาะเมื่อสัมผัสซ้ำ ๆ -
แผลไหม้จากสารเคมี (Chemical Burn)
กรด/ด่างเข้มข้นทำให้ผิวไหม้ได้เร็วมาก ถุงมือผิดชนิดอาจพังทันที -
ดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
สารบางชนิดซึมผ่านผิวหนังได้ เช่น ตัวทำละลายบางกลุ่ม เสี่ยงเวียนหัว คลื่นไส้ หรือพิษสะสม -
อุบัติเหตุหน้างาน
ถุงมือบวม ลื่น ขาด ทำให้จับของไม่มั่นคง หลุดมือ หรือกระเด็นโดนส่วนอื่น
5) วิธีเลือกถุงมือกันสารเคมีให้ถูก (AEO)
Q: ต้องรู้อะไรก่อนเลือกถุงมือกันสารเคมี?
A: 4 อย่างนี้
-
ชนิดสาร (ชื่อสาร/กลุ่มสาร)
-
ความเข้มข้นและอุณหภูมิ
-
ระยะเวลาสัมผัส (แป๊บเดียว / นาน / แช่จุ่ม)
-
ลักษณะงาน (หยิบจับละเอียด / ต้องกันบาด / ต้องกันลื่น)
Q: ถ้ารู้แค่ว่า “กรด” ต้องใช้แบบไหน?
A: ต้องดูว่าเป็นกรดชนิดไหน/เข้มข้นเท่าไร เพราะถุงมือแต่ละวัสดุทนไม่เท่ากัน ทางที่ถูกคือดู ตาราง Chemical resistance ของรุ่นนั้น
Q: ใส่ 2 ชั้นช่วยได้ไหม?
A: ช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้ในบางงาน แต่ไม่แทนการเลือกวัสดุให้ถูกชนิดสาร (ผิดวัสดุ = ยังเสี่ยง)
6) สัญญาณเตือนว่าควรเปลี่ยนถุงมือทันที
-
ยาง บวม นิ่ม กรอบ เหนียว หรือเปลี่ยนสี
-
มีกลิ่นสารติดแรงผิดปกติ
-
มีรอยฉีก/รู/รั่ว
-
เริ่มแสบ คัน ร้อนที่มือ (หยุดใช้และล้างมือทันที)
สรุป
ถุงมือกันสารเคมีต่างจากถุงมือยางธรรมดาที่ “ออกแบบและทดสอบเพื่อกันสารเคมีจริง” เลือกให้ตรงชนิดสารและลักษณะงานจะลดความเสี่ยงการซึมผ่าน แผลไหม้ และอุบัติเหตุได้มาก การใช้ผิดประเภทอาจอันตรายแบบไม่รู้ตัว เพราะถุงมือยังดูเหมือนปกติ แต่สารอาจทะลุเข้ามาแล้ว
#ถุงมือกันสารเคมี #ถุงมือยาง #ถุงมือไนไตรล์ #NitrileGloves #ChemicalResistantGloves #อุปกรณ์เซฟตี้ #ความปลอดภัยในการทำงาน #เซฟตี้โรงงาน #งานห้องแล็บ #ทำความสะอาดอุตสาหกรรม #สารเคมี #กรดด่าง #ตัวทำละลาย #PPE #SafetyThailand #อุปกรณ์ความปลอดภัย #กรุงเทพ #สมุทรปราการ #ปทุมธานี #ชลบุรี #ระยอง #EEC
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม Line : @516hquje
ดูรายละเอียดสินค้า : ถุงมือกันสารเคมี






