HEAD PROTECTION - หมวกเซฟตี้
เป็นอุปกรณ์เซฟตี้ที่สำคัญมากในสถานประกอบการและงานอุตสาหกรรม เนื่องจากศีรษะเป็นอวัยวะที่เปราะบาง หากเกิดอุบัติเหตุจากวัตถุตกหล่น การชนกระแทก หรือการกระเด็นของเศษวัสดุ อาจทำให้บาดเจ็บรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้นการใช้อุปกรณ์ป้องกันศีรษะจึงเป็นข้อบังคับในหลายอุตสาหกรรม เช่น ก่อสร้าง การผลิต เหมืองแร่ โลจิสติกส์ และงานซ่อมบำรุง

หมวกเซฟตี้
อุปกรณ์สำคัญในงานอุตสาหกรรม เพราะศีรษะเปราะบาง เสี่ยงบาดเจ็บรุนแรงจากการตกหล่น กระแทก หรือเศษวัสดุกระเด็น จึงถูกบังคับใช้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น ก่อสร้าง ผลิต เหมืองแร่
โลจิสติกส์ และซ่อมบำรุง.

สนใจสินค้าจำนวนมากติดต่อ


คำถามที่พบบ่อย
หมวกเซฟตี้มีมาตรฐานอะไรบ้าง? ใช้ต่างกันอย่างไร
EN 397 (ยุโรป): งานอุตสาหกรรมทั่วไป, กันกระแทกด้านบน
ANSI/ISEA Z89.1 (สหรัฐฯ): แบ่ง Type I/II (ทิศทางแรงกระแทก) และ Class E/G/C (ป้องกันไฟฟ้า)
EN 12492 (งานที่สูง/ปีนไต่): เน้นคางรัดแน่น ไม่หลุดง่าย
Type / Class ใน ANSI คืออะไร
Type I: กันแรงกระแทก “จากบนลงล่าง”
Type II: กันแรงกระแทก “รอบด้าน + ด้านบน”
Class E: กันไฟฟ้าสูงสุด (สูงสุด ~20–30 kV ตามเวอร์ชันมาตรฐาน)
Class G: กันไฟฟ้าระดับกลาง
Class C: ไม่กันไฟฟ้า เน้นระบายอากาศ
วัสดุหมวกต่างกันยังไง (HDPE, ABS, ไฟเบอร์กลาส)
HDPE: เบา คุ้มราคา ทนสารเคมีพอใช้
ABS: แข็งแรง รูปทรงคม สียังสด
ไฟเบอร์กลาส/ไฟเบอร์ผสม: ทนความร้อนสูง งานเชื่อม/เตาหลอม
อายุการใช้งานกี่ปี
ทั่วไป 3–5 ปี (นับจากวันที่ผลิต) ขึ้นกับวัสดุ/สภาพแวดล้อม แต่ Suspension/สายรัด มักเปลี่ยนถี่กว่า (เช่น 12–24 เดือน หรือเมื่อสึก)
เก็บรักษายังไงให้ไม่กรอบ
เก็บในที่แห้ง อุณหภูมิปกติ หลีกเลี่ยงแดด/ความร้อนสูง/รังสี UV/สารเคมี
ทำความสะอาดยังไง
ล้างด้วยน้ำสบู่อ่อน ผึ่งลม ห้ามใช้ตัวทำละลาย/ทินเนอร์/น้ำมันเบนซิน และห้ามแช่แดดจัดนาน ๆ
เลือกสีหมวกมีความหมายไหม?
หลายไซต์งานใช้สีบ่งบทบาท (วิศวกร/ผู้รับเหมา/ผู้มาเยือน) ให้เช็ค กฎหน้างาน ก่อน