รองเท้าเซฟตี้อุตสาหกรรม: 21 เทคนิคเลือกให้ถูกงาน ปลอดภัย คุ้มค่า

รองเท้าเซฟตี้อุตสาหกรรม

รองเท้าเซฟตี้อุตสาหกรรม คืออะไร และสำคัญอย่างไร

รองเท้าเซฟตี้อุตสาหกรรม คือรองเท้านิรภัยที่ออกแบบเพื่อปกป้องเท้าในสภาพแวดล้อมงานที่มีความเสี่ยง เช่น วัตถุตกกระแทก การถูกของมีคมแทงทะลุ การลื่นล้ม ไฟฟ้าสถิต สารเคมี และอุณหภูมิสุดขั้ว จุดแข็งของรองเท้าประเภทนี้คือ “โครงสร้างป้องกัน + ยึดเกาะพื้น + ความสบายระยะยาว” ที่ช่วยลดอุบัติเหตุ ลดวันหยุดงาน และรักษามาตรฐานกฎหมายด้านอาชีวอนามัย

ภาพรวมความเสี่ยงหน้างาน

  • กระแทก/ของตก: ต้องมีหัวรองเท้าป้องกัน (Toe Cap) ผ่านมาตรฐานแรงกระแทก

  • แทง/ทิ่ม: ใช้แผ่นกันทะลุใต้ฝ่าเท้า (Puncture Resistant Plate)

  • ไฟฟ้า: เลือกคุณสมบัติ ESD/ED (Electrostatic Dissipative) หรือ EH (Electrical Hazard) ตามความเสี่ยง

  • ลื่นล้ม: พื้นรองเท้าและดอกยางที่เหมาะกับพื้นผิวจริง

  • สารเคมี/น้ำมัน: วัสดุพื้นและหนังที่ทนต่อการกัดกร่อน

  • ความร้อน/สะเก็ดไฟ: พื้น Nitrile ทนความร้อนสูง หนังกันสะเก็ด

PPE กับประสิทธิภาพงาน

รองเท้าที่ฟิตดี น้ำหนักสมดุล และระบายอากาศเหมาะ จะช่วยให้พนักงานยืน–เดินนาน ๆ ได้โดยไม่ล้า ลดอาการเจ็บส้น–เข่า–หลัง ส่งผลต่อประสิทธิภาพงานโดยตรง


มาตรฐานรองเท้าเซฟตี้ที่ควรรู้ (มอก., EN ISO 20345, ASTM)

มาตรฐานหลักที่พบบ่อย:

  • EN ISO 20345 (ยุโรป): ระบุระดับความปลอดภัยตั้งแต่ S1, S1P, S2, S3 และคุณสมบัติย่อย (SRC กันลื่น, HRO ทนร้อนพื้น, WR กันน้ำ, ESD)

  • ASTM F2413 (สหรัฐฯ): กำหนดแรงกระแทก/บีบอัด, การป้องกันไฟฟ้า, แผ่นกันทะลุ

  • มอก. (ประเทศไทย): อ้างอิงมาตรฐานสากลและการทดสอบเฉพาะบางประเภท

การตีความสัญลักษณ์ยอดฮิต

  • S1: หัวเหล็ก/คอมโพสิต + กันไฟฟ้าสถิต + ดูดซับแรงส้น

  • S1P: S1 + แผ่นกันทะลุ (เหมาะคลัง/ประกอบ)

  • S2: S1 + ตัวรองเท้ากันน้ำซึม (WRU)

  • S3: S2 + พื้นกันทะลุ + ดอกยางลึก (งานภายนอก/ไซต์ก่อสร้าง)

  • SRC: ผ่านกันลื่นทั้งพื้นเซรามิก+สารละลายสบู่ และพื้นเหล็ก+กลีเซอรีน

  • ESD: ควบคุมไฟฟ้าสถิต ปลอดภัยต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์


โครงสร้างและวัสดุของรองเท้าเซฟตี้อุตสาหกรรม

หัวรองเท้า (Toe Cap)

  • เหล็ก: แข็งแรง ราคาเข้าถึงง่าย แต่หนักและนำความร้อน

  • คอมโพสิต/ไฟเบอร์: เบา ไม่นำไฟฟ้า ผ่านสนามสแกนง่าย ราคาสูงกว่าเล็กน้อย

  • อลูมิเนียม: เบากว่าเหล็ก บางรุ่นสลิมฟิต

แผ่นกันทะลุ (Puncture Plate)

  • เหล็ก: ทนคมสูง แต่เพิ่มน้ำหนักและลดความยืดหยุ่น

  • สิ่งทอ/เคฟลาร์: เบา ยืดหยุ่น เดินสบาย เหมาะงานที่ต้องยืดหยุ่นตัว

วัสดุตัวรองเท้า

  • หนังแท้: ทนทาน ปกป้องดี ใช้เวลาปรับตัว

  • ไมโครไฟเบอร์/PU เคลือบ: น้ำหนักเบา ทนน้ำมัน เช็ดทำความสะอาดง่าย

  • ผ้า Mesh + โครงเสริม: ระบายอากาศดี เหมาะอากาศร้อน

พื้นรองเท้า

  • PU/PU: เบา นิ่ม ซัพแรงดี เหมาะในอาคาร

  • PU/TPU: ทนสึก กันลื่นดี เหมาะโลจิสติกส์

  • ยาง Nitrile: ทนความร้อน/น้ำมันสูง เหมาะงานเชื่อม/ภายนอก

  • EVA + ยาง: น้ำหนักเบา สบาย แต่ต้องดูความทนทาน


เลือกให้ “ตรงงาน”: 8 โจทย์ยอดฮิตและรุ่นที่เหมาะ

  • งานประกอบ/คลังสินค้า: S1P หรือ S1 + SRC พื้น PU/TPU เบา ยืนทั้งวันสบาย

  • โลจิสติกส์กลางแจ้ง: S3 + SRC ดอกยางลึก กันน้ำบางส่วน

  • เชื่อม/โลหะร้อน: HRO (รองรับ 300°C ชั่วคราว), หนังกันสะเก็ด, ไม่มีเชือกที่ติดสะเก็ดง่าย

  • อาหาร/ยา/คลีนรูม: S2 หรือ S3 แบบพื้นเรียบทำความสะอาดง่าย + ESD ตามจำเป็น

  • อิเล็กทรอนิกส์ (ESD): สัญลักษณ์ ESD, พื้นไม่ทิ้งคราบ, น้ำหนักเบา

  • ก่อสร้าง/ไซต์โหด: S3 พื้น Nitrile ดอกยางลึก + แผ่นกันทะลุสิ่งทอ

  • สารเคมี/น้ำมัน: วัสดุทนสารตาม MSDS พื้นยางทนน้ำมัน สันลึก

  • งานไฟฟ้า: คุณสมบัติ EH (ASTM) หรือฉนวนเฉพาะตามข้อกำหนดความปลอดภัย


ฟิตที่ใช่: ไซซ์ ทรงเท้า อินโซล และการลองที่ถูกต้อง

  • เวลาลอง: ช่วงบ่าย–เย็น เท้าขยายสุด เผื่อปลายนิ้ว ~1 ซม.

  • รูปเท้า: เท้าแบนควรมีอินโซลพยุงอุ้งเท้า เท้ากว้างเลือกทรง Wide

  • ส้น–เอ็นร้อยหวาย: ส้นต้องล็อกพอดี ไม่หลวมจนส้นหลุด

  • ลองเดิน–ย่ำขึ้นลง/บันได: เช็กกดปลายเท้าไม่ชนและไม่บีบด้านข้าง

  • อินโซล: เลือกแบบรองรับโค้งอุ้งเท้า ดูดซับแรงดี ลดปวดเข่า–หลัง


กันลื่นอย่างมั่นใจ: ดอกยางและสูตรยางสำหรับพื้นต่าง ๆ

  • พื้นเปียกมัน/น้ำมัน: เลือก SRC ลายดอกยางร่องระบายน้ำลึก ยางทนน้ำมัน

  • พื้นโลหะ/ทางลาด: ต้องการดอกยาง “กัด” ผิวและขอบยางแข็งขึ้น

  • ฝุ่นผง/แป้ง: ร่องไม่ตื้นจน “อุดตัน” ง่าย ทำความสะอาดได้เร็ว

  • ทดสอบหน้างาน: เดิน–หยุด–หมุน 90° ช้า ๆ หากลื่นผิดปกติให้เปลี่ยนสูตรยาง


คอมโบถุงเท้าและรองเท้า: ลดพอง ลดกลิ่น เพิ่มสบาย

  • ถุงเท้าฟังก์ชัน/เมอริโน: ระบายเหงื่อเร็ว ลดเสียดสี

  • ตะเข็บแบน (Flat Seam): ไม่กดนิ้วเท้า

  • เปลี่ยนระหว่างกะยาว: ถุงเท้าแห้งช่วยลดกลิ่นและเชื้อรา


อายุการใช้งานและสัญญาณว่าต้องเปลี่ยน

  • ดอกยางสึกจนตื้น, พื้นกลางยุบจนเจ็บส้น

  • หัวรองเท้า “กด” หรือเสียรูปหลังรับแรงกระแทก

  • แผ่นกันทะลุเสียความยืดหยุ่น/บิดเสียงกรอบแกรบ

  • เย็บตะเข็บขาด น้ำ/ฝุ่นซึมเข้ารองเท้า


ดูแล–บำรุงรักษา: ทำความสะอาด ตาก เก็บ และฟื้นสภาพ

  • รายวัน: ปัดฝุ่น/โคลน เช็ดชื้นเล็กน้อย แล้วผึ่งลม

  • รายสัปดาห์: ถอดอินโซลตากแห้ง ล้างเชือก/ตีนตุ๊กแก

  • รายเดือน: ทาครีมบำรุงหนัง (รุ่นหนังแท้) ตรวจสภาพดอกยาง/พื้น

  • ห้าม: แช่น้ำ/ซักเครื่อง/ตากแดดจัด/อบร้อน—ทำให้กาวเสื่อมและพื้นแตก


ลดต้นทุนแบบโปร: TCO, การหมุนเวียนคู่รอง, และสต็อกไซซ์

  • คิด TCO: ราคาซื้อ + อายุใช้งาน + เวลาหยุดงานจากอุบัติเหตุ

  • หมุนเวียนคู่รอง สำหรับงานกะยาว เพื่อให้รองเท้าได้ “พักแห้ง” ยืดอายุ

  • ใช้ ระบบเบิก–คืน ด้วย QR/บาร์โค้ด + สต็อกไซซ์ยอดนิยม (40–44 หรือเทียบ)

  • เก็บบันทึกอุบัติการณ์และสภาพรองเท้า เพื่อวิเคราะห์รุ่นที่คุ้มค่าที่สุด


ข้อผิดพลาดยอดฮิตเมื่อซื้อรองเท้าเซฟตี้อุตสาหกรรม

  • เลือกจากราคา/ดีไซน์ โดยไม่ดูมาตรฐานและงานจริง

  • ไม่ทดสอบฟิตและดอกยางในสภาพพื้นของโรงงาน

  • ใช้รุ่นเดียว “เหมารวม” ทุกแผนก ทั้งที่ความเสี่ยงต่างกัน

  • มองข้าม ESD ในโรงงานอิเล็กทรอนิกส์

  • ลืมวางนโยบายเปลี่ยนตามสภาพจริง ทำให้ใช้เกินอายุ


เช็กลิสต์ก่อนสั่งซื้อ/ประกวดราคา (พร้อมดาวน์โหลดแนวคิด)

  • ✅ ระบุ ประเภทงาน/ความเสี่ยงหลัก (Impact, Puncture, Slip, Heat, Chemical, ESD)

  • ✅ กำหนด มาตรฐานขั้นต่ำ (เช่น S1P/S3 + SRC + ESD ตามแผนก)

  • ✅ ทดลองฟิต อย่างน้อย 3 ไซซ์/ทรง กับผู้ใช้งานจริง

  • ✅ ทดสอบ กันลื่น บนพื้นจริงของโรงงาน 10–15 นาที

  • ✅ เงื่อนไข รับประกัน/บริการหลังการขาย และรอบส่งมอบ

  • ✅ แผน หมุนเวียน–เปลี่ยนทดแทน และระบบบันทึกอายุการใช้งาน

เคล็ดลับ: ทำฟอร์มประเมิน “ความพึงพอใจหลังใส่ 30 วัน” ให้พนักงานกรอก จะคัดรุ่นที่ใช่ได้เร็วขึ้น

Leave a comment

Please note, comments must be approved before they are published

Add Order Note

    What are you looking for?

    Popular Searches:  Jeans  Dress  Top  Summer  SALE