เครื่องวัดแอลกอฮอล์: 15 เคล็ดลับเลือกซื้อและใช้งานให้แม่นยำ ปลอดภัยได้มาตรฐาน

เครื่องวัดแอลกอฮอล์คืออะไร
เครื่องวัดแอลกอฮอล์ (Alcohol Tester หรือ Breathalyzer) คืออุปกรณ์ที่ใช้ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจของผู้ใช้ เพื่อประเมินค่าความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือด (BAC – Blood Alcohol Concentration) โดยไม่ต้องเจาะเลือด ซึ่งนิยมใช้ในจุดตรวจความปลอดภัยบนท้องถนน หน่วยงานราชการ โรงงาน หรือบุคคลทั่วไปที่ต้องการตรวจวัดก่อนขับขี่
หลักการทำงานของเครื่องวัดแอลกอฮอล์
เครื่องวัดแอลกอฮอล์ใช้ เซ็นเซอร์ทางเคมี ตรวจจับโมเลกุลของเอทานอลในลมหายใจที่เป่าเข้าไป แล้วแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้า ก่อนประมวลผลออกมาเป็นค่าเปอร์เซ็นต์ BAC (%) หรือมิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ (mg%) บนหน้าจอ
ขั้นตอนการทำงานโดยสรุป
-
ผู้ใช้เป่าลมหายใจเข้าไปในท่อหรือหัวเป่าของเครื่อง
-
เซ็นเซอร์ตรวจจับโมเลกุลของแอลกอฮอล์
-
เครื่องแปลงสัญญาณเคมีเป็นสัญญาณไฟฟ้า
-
ระบบคำนวณค่า BAC และแสดงผลบนหน้าจอ
ประเภทของเครื่องวัดแอลกอฮอล์
1. เครื่องวัดแบบกึ่งตัวนำ (Semiconductor Sensor)
-
ใช้หลักการตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของความต้านทานไฟฟ้า
-
ราคาย่อมเยา ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับบุคคลทั่วไป
-
ความแม่นยำระดับพื้นฐาน (±0.01–0.02% BAC)
🟢 เหมาะกับ: การตรวจส่วนตัวก่อนขับขี่
2. เครื่องวัดแบบไฟฟ้าเคมี (Electrochemical Sensor / Fuel Cell)
-
ใช้เซ็นเซอร์เคมีไฟฟ้าสำหรับตรวจเฉพาะเอทานอล
-
ความแม่นยำสูง ใช้โดยตำรวจ หน่วยงานรัฐ หรือองค์กรใหญ่
-
ไม่ได้รับผลกระทบจากกลิ่นอื่น เช่น ยา หรือน้ำหอม
🟢 เหมาะกับ: หน่วยงานที่ต้องการค่าถูกต้องตามกฎหมาย
3. เครื่องวัดแบบอินฟราเรด (Infrared Spectroscopy Sensor)
-
ตรวจจับการดูดซับรังสีอินฟราเรดของโมเลกุลเอทานอล
-
ใช้ในห้องแล็บหรือตำรวจจราจรขั้นสูง
-
ราคาแพงที่สุด แต่แม่นยำระดับห้องปฏิบัติการ
มาตรฐานความปลอดภัยและการรับรอง
เมื่อเลือกซื้อเครื่องวัดแอลกอฮอล์ ควรตรวจสอบว่าผ่านการรับรองมาตรฐาน เช่น
-
OIML R126 (สากล) – มาตรฐานเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์
-
DOT/NHTSA (สหรัฐอเมริกา) – ผ่านเกณฑ์ใช้งานทางกฎหมาย
-
CE / RoHS (ยุโรป) – ความปลอดภัยทางไฟฟ้าและสิ่งแวดล้อม
-
มาตรฐาน มอก. (ประเทศไทย) – สำหรับอุปกรณ์วัดค่าความปลอดภัย
วิธีใช้เครื่องวัดแอลกอฮอล์อย่างถูกต้อง
-
รอหลังดื่ม 15–20 นาที ก่อนทดสอบ เพื่อไม่ให้ค่าผิดจากแอลกอฮอล์ในช่องปาก
-
ไม่สูบบุหรี่/เคี้ยวหมากฝรั่งก่อนเป่า เพราะอาจมีสารเคมีรบกวนเซ็นเซอร์
-
เป่าลมหายใจยาว 4–5 วินาที ตามที่เครื่องกำหนด
-
อ่านค่า BAC บนหน้าจอ และเปรียบเทียบกับเกณฑ์กฎหมาย
-
ตรวจซ้ำอีกครั้งภายใน 1 นาที เพื่อยืนยันความถูกต้อง
ค่ามาตรฐานตามกฎหมายไทย
ประเภทผู้ขับขี่ | ค่าความเข้มข้นแอลกอฮอล์สูงสุดที่อนุญาต |
---|---|
ผู้ขับทั่วไป | ไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ (0.05%) |
ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี / ผู้ถือใบขับขี่ชั่วคราว | ต้องเป็น 0% |
ผู้ขับรถโดยสารสาธารณะ / รถบรรทุก | ต้องเป็น 0% เช่นกัน |
ข้อดีของการใช้เครื่องวัดแอลกอฮอล์
-
✅ ป้องกันการขับขี่ขณะมึนเมา
-
✅ ตรวจวัดรวดเร็ว (ไม่เกิน 5 วินาที)
-
✅ ใช้งานง่าย ไม่ต้องพึ่งพาเจ้าหน้าที่
-
✅ ประเมินความพร้อมก่อนขับขี่ได้เอง
-
✅ ใช้ได้ทั้งส่วนบุคคลและองค์กร
เคล็ดลับการดูแลรักษาเครื่องวัดแอลกอฮอล์
-
สอบเทียบ (Calibration) ทุก 6–12 เดือน: เพื่อความแม่นยำของเซ็นเซอร์
-
เปลี่ยนหัวเป่าทุกครั้งที่ใช้งาน: เพื่อสุขอนามัยและป้องกันการปนเปื้อน
-
เก็บในที่แห้ง ไม่ร้อนจัด: ป้องกันความชื้นและการเสื่อมของวงจร
-
ใช้แบตเตอรี่คุณภาพดี: แรงดันต่ำอาจทำให้ค่าคลาดเคลื่อน
วิธีอ่านค่า BAC และการตีความผล
ค่า BAC (%) | สถานะโดยทั่วไป | คำแนะนำ |
---|---|---|
0.00–0.02 | ปลอดภัย | ขับขี่ได้ตามปกติ |
0.03–0.04 | เริ่มมีผลต่อการตัดสินใจ | หลีกเลี่ยงการขับขี่ |
0.05–0.08 | ผิดกฎหมายในไทย | ห้ามขับเด็ดขาด |
>0.08 | มึนเมาอย่างชัดเจน | เสี่ยงต่ออุบัติเหตุสูง |
วิธีเลือกซื้อเครื่องวัดแอลกอฮอล์
1. เลือกตามระดับความแม่นยำที่ต้องการ
-
บุคคลทั่วไป: รุ่นกึ่งตัวนำ (ราคาย่อมเยา)
-
องค์กร/โรงงาน/หน่วยงานรัฐ: รุ่น Fuel Cell (แม่นยำสูง)
2. ตรวจสอบการสอบเทียบจากโรงงาน
ควรเลือกแบรนด์ที่มีใบรับรอง Calibration Certificate จากผู้ผลิตหรือศูนย์บริการในไทย
3. เลือกหน้าจออ่านง่ายและไฟแสดงผล
เช่น หน้าจอ LED / LCD พร้อมไฟสีเขียว–แดง สำหรับแจ้งผล “ผ่าน/ไม่ผ่าน”
4. พิจารณาฟังก์ชันเสริม
-
การเชื่อมต่อ USB หรือ Bluetooth
-
บันทึกข้อมูลย้อนหลัง
-
พิมพ์ผลผ่านเครื่องพิมพ์ภายนอก
สนใจเครื่องวัดแอลกอฮอล์ >> คลิกที่นี่ <<