Safety Jogger คือแบรนด์อะไร? ทำไมคนทำงานสายโรงงาน ก่อสร้างถึงนิยม

Safety Jogger คือแบรนด์อะไร?

Safety Jogger เป็นแบรนด์รองเท้าเซฟตี้และอุปกรณ์ PPE จากประเทศเบลเยียม อยู่ในกลุ่มบริษัท Cortina ที่เริ่มจากโรงงานรองเท้าครอบครัวตั้งแต่ปี 1950 ก่อนจะขยายเป็นธุรกิจรองเท้าระดับโลก และต่อมาเปิดตัวแบรนด์ Safety Jogger ในปี 2000 เพื่อโฟกัสเฉพาะรองเท้านิรภัยและอุปกรณ์ป้องกันสำหรับการทำงานโดยตรง

ปัจจุบัน Safety Jogger กลายเป็นแบรนด์สากล จำหน่ายในหลายสิบประเทศทั่วโลก มีสินค้าแบบ “Head-to-toe protection” ตั้งแต่

• รองเท้านิรภัยและบู๊ตนิรภัย

• ชุดทำงาน / workwear

• ถุงมือ / head protection และ PPE อื่น ๆ

โดยเน้นกลุ่มงานอุตสาหกรรม โลจิสติกส์ ก่อสร้าง การแพทย์ อาหาร ฯลฯ

จุดเด่นของรองเท้าเซฟตี้ Safety Jogger

1) ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยสากล

รองเท้า Safety Jogger ส่วนใหญ่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานหลัก เช่น

• EN ISO 20345 (ยุโรป) – กำหนดให้หัวรองเท้าต้องทนแรงกระแทกได้ 200 จูล และมีการแบ่งคลาส S1, S1P, S2, S3 ฯลฯ ตามระดับการป้องกัน

• ASTM F2413 (อเมริกา) – เน้นการป้องกันแรงกระแทก การกดทับ การเจาะทะลุ และไฟฟ้า

หมายความว่า รองเท้าที่เห็นสกรีนรหัสอย่าง S1, S1P, S3, SRC ฯลฯ ไม่ใช่แค่ตัวเลขสวย ๆ แต่เป็นการยืนยันว่ารองเท้าคู่นั้นผ่านการทดสอบจริงตามมาตรฐานโลก

2) ฟีเจอร์เพื่อความปลอดภัยรอบด้าน

จุดขายหลักของ Safety Jogger คือ “ใส่แล้วมั่นใจว่าปลอดภัยขึ้นจริง” เพราะมีฟีเจอร์สำคัญหลายอย่าง เช่น

• หัวรองเท้านิรภัย – ทั้งหัวเหล็ก (Steel toe) และหัวคอมโพสิต (Composite toe) ป้องกันการกระแทกจากของตกหล่น

• พื้นรองเท้ากันเจาะทะลุ (P/PL/PS) – ลดความเสี่ยงจากตะปู เศษเหล็ก หรือของมีคมบนพื้น

• พื้นกันลื่นระดับ SRA / SRC / SR – ทดสอบการเกาะพื้นเปียก น้ำสบู่ หรือพื้นมีน้ำมัน

• คุณสมบัติกันไฟฟ้าสถิต / ESD / EH – ช่วยลดการสะสมประจุไฟฟ้าสถิตหรือป้องกันไฟฟ้าช็อตตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง

• ทนน้ำ / กันซึม / หนังกันน้ำ – บางรุ่นมี membrane กันน้ำทั้งคู่ (S6, S7)

• พื้นรองเท้าทนน้ำมันและเชื้อเพลิง (FO) – เหมาะกับงานโรงงาน และงานซ่อมบำรุง

3) ใส่สบายขึ้นสำหรับการทำงานทั้งวัน

นอกจากความปลอดภัย Safety Jogger ยังลงทุนกับเรื่อง “ความสบาย” ค่อนข้างมาก เช่น

• พื้นรองเท้าดูดซับแรงกระแทก (heel energy absorption, shock absorber)

• พื้นด้านในแบบ Soft impact foam / SJ Foam footbed ช่วยรองรับฝ่าเท้า

• บุด้านในแบบระบายอากาศได้ดี ลดอับชื้นและกลิ่นเท้า

• หลายรุ่นออกแบบให้ น้ำหนักเบา เมื่อเทียบกับรองเท้าเซฟตี้ทั่วไป

สำหรับคนที่ต้องยืน เดิน ขึ้นลงบันไดทั้งวัน ความต่างของรองเท้าดีหรือไม่ดี รู้เลยตอนปลายกะงาน

ทำไมคนทำงานสายโรงงาน & ก่อสร้างถึงนิยม Safety Jogger?

1) ตอบโจทย์งานเสี่ยงสูงอย่างโรงงานและไซต์ก่อสร้าง

Safety Jogger มีไลน์สินค้าสำหรับงาน Construction / Industrial โดยเฉพาะ เช่น รุ่นในกลุ่ม Construction range หรือ Hi-tech construction boots ที่ออกแบบมาให้ทนต่อสภาพหน้างานหนัก ๆ ทั้งฝุ่น น้ำ เปียก แดดแรง พื้นขรุขระ หรือวัสดุมีคมต่าง ๆ

คนทำงานหน้างานจึงรู้สึกได้ว่ามัน “เหมาะกับงานจริง” ไม่ใช่แค่รองเท้าธรรมดาที่ติดคำว่าเซฟตี้

2) ปลอดภัยครบ แต่ยังเดินคล่อง

สำหรับงานก่อสร้างหรือโรงงาน การก้าวพลาดครั้งเดียวอาจหมายถึงอุบัติเหตุหนัก ๆ Safety Jogger เลยเน้น

• พื้นกันลื่นคุณภาพดี ช่วยลดโอกาสลื่นล้ม

• หัวรองเท้านิรภัย + พื้นกันเจาะทะลุ ครบชุดสำหรับของตกหล่นและพื้นมีของมีคม

• รุ่นหุ้มข้อ / high-cut ให้การซัพพอร์ตข้อเท้าเวลาเดินบนพื้นขรุขระ หรือขึ้นนั่งร้านบันไดสูง ๆ

จุดนี้ทำให้หัวหน้าหน่วยงานหรือฝ่ายเซฟตี้ในโรงงานหลายที่เลือก Safety Jogger เพราะตอบโจทย์ตามข้อกำหนดความปลอดภัยได้ง่าย

3) ใส่แล้วไม่เมื่อยง่าย ทำงานกะยาวได้สบายกว่า

คนงานโรงงานและช่างก่อสร้างจำนวนมากต้องทำงาน 8–12 ชั่วโมงต่อวัน การเลือกใช้รองเท้าที่หนักเกินไป แข็งเกินไป หรือระบายอากาศไม่ดี จะทำให้ปวดเท้า ปวดเข่า ปวดหลังระยะยาว

จุดที่ทำให้หลายคน “ติดใจ” Safety Jogger คือ

• น้ำหนักรองเท้าค่อนข้างเบาเมื่อเทียบกับมาตรฐานความปลอดภัยที่ให้มา

• พื้นรองเท้าและโฟมด้านในช่วยรองรับแรงกระแทกจากการเดินบนพื้นคอนกรีตทั้งวัน

• วัสดุด้านในระบายอากาศดีกว่ารองเท้าหนังแข็งทั่วไป ทำให้รู้สึกไม่อับเท้า

เลยกลายเป็นรองเท้าที่ “ใส่แล้วไม่อยากเปลี่ยนยี่ห้อ” สำหรับหลายคนที่ได้ลอง

4) มีรุ่นให้เลือกเยอะตามลักษณะงาน

Safety Jogger ไม่ได้มีแค่รองเท้าทรงเดียว แต่มีให้เลือกหลายแบบ เช่น

• หุ้มข้อสูง (High cut) – เน้นงานเสี่ยง ขึ้นลงนั่งร้าน งานยกของหนัก

• หุ้มข้อกลาง / ต่ำ (Mid / Low cut) – เหมาะกับงานคลังสินค้า โลจิสติกส์ โรงงานทั่วไป

• รุ่นเน้นกันน้ำหนักเบา / กันสารเคมี / กันน้ำ / ESD ฯลฯ

• รุ่นไซซ์ผู้หญิง / ดีไซน์เฉพาะสำหรับสาวโรงงานหรือวิศวกรหญิง

ทำให้แต่ละบริษัท หรือแต่ละฝ่ายงาน สามารถเลือกรุ่นที่เหมาะกับความเสี่ยงของงานจริง ไม่ต้องใช้รุ่นเดียวกันทั้งโรงงาน

5) ดีไซน์ดูดี ใช้นอกเวลางานก็ยังได้

จุดแข็งอีกอย่างที่คนพูดถึงบ่อยคือ “รองเท้าเซฟตี้แต่หน้าตาเหมือนรองเท้าแฟชั่น/รองเท้าผ้าใบ”

• หลายรุ่นสีสันและทรงรองเท้าดูสปอร์ต ทันสมัย

• ใส่ออกจากไซต์กลับบ้าน หรือแวะซื้อของต่อ ยังดูไม่ต่างจากรองเท้าลำลองมากนัก

เลยถูกใจวัยทำงานที่ไม่อยากใส่รองเท้าบู๊ตเซฟตี้ทรงเทอะทะตลอดเวลา

6) หาซื้อได้ง่ายในไทย

ในไทยเอง Safety Jogger มีตัวแทนจำหน่ายและช่องทางออนไลน์หลายเจ้า เช่น

• เว็บไซต์ Safety Jogger Thailand, จำหน่ายรุ่นยอดนิยมในไทย พร้อมข้อมูลมาตรฐานชัดเจนsafetyjogger.co.th

• ร้านอุปกรณ์เซฟตี้ / ออฟฟิศซัพพลาย เช่น Lyreco, Central Online ฯลฯ

ทำให้โรงงานและผู้รับเหมาเลือกสั่งซื้อได้ง่าย ทั้งแบบคู่เดี่ยว และแบบล็อตใหญ่สำหรับพนักงานทั้งทีม

สรุปสั้น ๆ

Safety Jogger คือแบรนด์รองเท้าเซฟตี้จากเบลเยียม ที่เติบโตจากพื้นฐานเป็นโรงงานรองเท้ามากว่า 70 ปี เน้นรองเท้าทำงานที่ “ปลอดภัยจริง ตามมาตรฐานโลก + ใส่สบาย + ดีไซน์ดี”

จึงไม่แปลกที่คนทำงานสายโรงงาน ก่อสร้าง โลจิสติกส์ และงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ จะนิยมเลือกใช้ เพราะ

1. ผ่านมาตรฐาน EN ISO 20345 / ASTM ฯลฯ

2. มีฟีเจอร์ความปลอดภัยครบ (หัวเหล็ก/คอมโพสิต กันเจาะ กันลื่น กันไฟฟ้าสถิต ฯลฯ)

3. ใส่สบายขึ้น รองรับการยืน–เดินทั้งวัน

4. มีหลายรุ่น หลายทรง ให้เลือกตามลักษณะงาน

5. ดีไซน์ทันสมัย ใส่แล้วไม่เชย

6. หาซื้อง่ายในไทย ทั้งออนไลน์และออฟไลน์

Master Safety ตัวแทน Safety Jogger อันดับหนึ่งในประเทศไทย
สนใจรองเท้าเซฟตี้ >>>  คลิกที่นี่ <<<