ถุงมือกันสารเคมี: 15 ค่า “ต้องดูด่วน” แบบครบถ้วนก่อนซื้อ

ถุงมือกันสารเคมี: 15 ค่า “ต้องดูด่วน” แบบครบถ้วนก่อนซื้อ

ถุงมือกันสารเคมี: อ่านฉลากมาตรฐานให้เป็น เลือกให้ปลอดภัย

บนฉลาก ถุงมือกันสารเคมี มี “คีย์เวิร์ด” สำคัญซ่อนอยู่มากกว่าชื่อรุ่นหรือคำว่า Chemical Resistant—โดยเฉพาะมาตรฐาน EN/ISO และ ANSI ที่บอกทั้งชนิดการป้องกัน (Type), เวลา “ทะลุผ่าน” (permeation/breakthrough), การเสื่อมสภาพ (degradation), รายการสารตาม “รหัสตัวอักษร” A–T และค่าความทนทางกล (EN 388) ซึ่งทั้งหมดนี้คือหลักฐานเชิงมาตรฐานว่าถุงมือ “เอาอยู่” กับงานของคุณจริงหรือไม่ (ไม่ใช่แค่ความหนาหรือความรู้สึกแน่นมือ)


เริ่มต้น: ทำไม “อ่านฉลาก” สำคัญกว่าดูแค่ยี่ห้อ

สารเคมีแตกต่างกันมาก—บางตัวซึมผ่านถุงมือยางธรรมชาติได้เร็ว แต่แพ้ถุงมือบิวทิล หรือบางชนิดตรงข้าม ดังนั้นอย่าเดา ให้ “อ่านฉลากมาตรฐาน” เป็นตัวนำทาง แล้วค่อยเทียบกับสาร/ความเข้มข้น/อุณหภูมิ/ลักษณะสัมผัส (จุ่มทั้งมือหรือโดนกระเด็น) และอุปสรรคทางกล (คม/สาก/การเจาะ) เพื่อเลือกชนิดและชั้นคุณภาพที่เหมาะสมที่สุดสำหรับงาน (แนวทางคัดเลือกแบบองค์รวมอยู่ใน HSE และสถาบันความปลอดภัยหลายแห่ง)


ภาพรวมมาตรฐานหลักที่ต้องเจอบนฉลาก

EN ISO 374-1 (Chemical Risks) และชนิด Type A/B/C

  • Type A: ทนการซึมผ่าน ≥ 30 นาทีอย่างน้อย 6 สาร ที่ทดสอบ

  • Type B: ≥ 30 นาที 3 สาร

  • Type C: ≥ 10 นาที 1 สาร
    ข้างไอคอนขวดสาร (Erlenmeyer) จะมี ตัวอักษรรหัสสาร ที่รุ่นนั้นผ่านการทดสอบจริง (เช่น “AJK”)

EN ISO 374-5 (จุลชีพ/ไวรัส) ไอคอนรูปจุลชีพ

ถุงมือที่ทดสอบ ป้องกันจุลชีพ จะมีไอคอนเฉพาะ และหากทดสอบเพิ่มตาม ISO 16604 วิธี B จะอ้างสิทธิ์ “ป้องกันไวรัส” ได้บนฉลาก

EN 388 (Mechanical Risks) ค่าทนขีดข่วน/บาด/ฉีก/เจาะ

ฉลากจะระบุเป็นชุดตัวเลข/อักษร เช่น 4X43F สื่อถึง ขีดข่วน-บาด-ฉีก-เจาะ และค่า ISO 13997 (A–F) สำหรับตัดเฉือน (TDM) ใช้ดูว่าถุงมือจะ ทนงานคมๆ ระหว่างทำงานสารเคมีได้เพียงพอหรือไม่

ANSI/ISEA 105 (US) ใช้เทียบค่ากับ EN ได้ยังไง

มาตรฐานอเมริกาจะจัดระดับ Cut A1–A9, การเจาะ/ขีดข่วน/สารเคมี ฯลฯ บนสเกลต่างจาก EN ช่วยให้เทียบผลิตภัณฑ์จากตลาดสหรัฐฯ กับยุโรปได้. เวอร์ชันล่าสุด ANSI/ISEA 105-2024 อัปเดตคำจำกัดความและการจัดชั้นเพื่อการเลือกใช้งานที่แม่นยำขึ้น


ค่า “Permeation” และ “Breakthrough Time” คืออะไร

Permeation คือการที่โมเลกุลสารเคมี “ซึมผ่าน” เนื้อถุงมือจนถึงด้านใน ส่วน Breakthrough Time (BTT) คือเวลาที่สารเริ่ม ตรวจพบ ฝั่งในที่ระดับเกณฑ์มาตรฐาน การเลือกถุงมือจึงต้องดู ระดับคุณภาพ (performance level) ที่ผูกกับเวลา เช่น 10, 30, 60 นาทีขึ้นไป (ยิ่งนานยิ่งดีสำหรับการจุ่ม/สัมผัสต่อเนื่อง)

ระดับประสิทธิภาพ EN (0–6) และเกณฑ์เวลา 10/30/60+ นาที

ตาม EN ISO 374-1 เวลาเป็นหัวใจในการเข้าชนิด Type A/B/C (อธิบายด้านบน) และระดับประสิทธิภาพย่อยจะยึดตามช่วงเวลา BTT ที่ทดสอบกับสารอ้างอิงในรายการ A–T บนมาตรฐานเดียวกัน (ผู้ผลิตมักลงในตารางข้อมูลผลิตภัณฑ์)

ลักษณะงาน: จุ่มทั้งมือ vs กระเด็นเล็กน้อย เลือกเวลาเท่าไหร่

  • งานจุ่ม/สัมผัสนาน: เลือก Type A หรือรุ่นที่มี BTT ≥ 60 นาที สำหรับสารเป้าหมาย

  • งานกระเด็น/สัมผัสขณะสั้น: อาจพอด้วย Type B/C แต่ให้ดู BTT และ Degradation ประกอบ
    แนวคิดนี้สอดคล้องกับคำแนะนำของหน่วยงานความปลอดภัย (HSE/มหาวิทยาลัย/NIOSH) ที่ย้ำให้เลือกตาม ชนิดการสัมผัส และ ความเสี่ยงจริง ไม่ใช่แค่ชื่อวัสดุ


ค่า “Degradation” (EN ISO 374-4) ถุงมือเสื่อม/บวม/กรอบเร็วไหม

Degradation คือความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของเนื้อถุงมือเมื่อสัมผัสสารต่อเนื่อง—อาจบวม นิ่ม กรอบ แตก ทำให้ ทะลุ/ฉีก ง่ายขึ้น การทดสอบตาม EN ISO 374-4:2019 จะวัด การเปลี่ยนแปลงแรงเจาะ ก่อน–หลังแช่สาร 1 ชั่วโมง แล้วคำนวณเป็น % การเสื่อมสภาพ (DR) ค่ายิ่งลบ/ยิ่งมาก แปลว่าประสิทธิภาพตกลงมาก ผู้ใช้ควรเลือกถุงมือที่มี Degradation ต่ำ กับสารที่จะใช้จริง

การอ่าน % การเสื่อมสภาพ และความหมายเชิงใช้งาน

  • DR ใกล้ 0% หรือติดลบเล็กน้อย: เนื้อวัสดุยังทรงตัว

  • DR ติดลบมาก ๆ (แรงเจาะลดฮวบ): วัสดุบวม/นิ่ม เสี่ยงฉีก

  • ใช้ DR + BTT คู่กัน: บางรุ่น BTT ยาว แต่ DR แย่ ก็ไม่ปลอดภัยเมื่อทำงานจริงนาน ๆ


ตารางรหัสสารเคมี A–T บนฉลาก อ่านอย่างไรให้ตรงงาน

บนฉลาก EN ISO 374-1 จะมีตัวอักษร A–T กำกับว่า “รุ่นนี้ทนสาร…ได้กี่ตัว” ตัวอย่างเช่น

  • A = เมทานอล, B = อะซิโตน, F = โทลูอีน, J = n-เฮปเทน, K = โซเดียมไฮดรอกไซด์ 40%, L = กรดซัลฟูริก 96%, M = กรดไนตริก 65%, N = กรดอะซิติก 99%, O = แอมโมเนีย 25% ฯลฯ รายการเต็ม A–T ใช้เป็น “สารอ้างอิง” เพื่อจัด Type A/B/C และพิมพ์เป็นรหัสถัดไอคอนบนฉลาก

เคล็ดลับ: แม้รุ่นนั้นผ่าน A/J/K ไม่ได้หมายความว่า สารตัวอื่น ที่คล้ายกันจะ “ปลอดภัยเท่ากัน” เสมอ ควรดู ตารางเคมีเฉพาะรุ่น ของผู้ผลิตด้วยทุกครั้ง


วัสดุยอดนิยม: Nitrile, Neoprene, Butyl, PVC, PVA เลือกยังไง

  • Nitrile: งานน้ำมัน/เชื้อเพลิง/ตัวทำละลายหลายชนิด ดีสำหรับห้องปฏิบัติการทั่วไป

  • Butyl: เด่นกับ คีโตน/เอสเทอร์/กรดเข้มข้นหลายชนิด

  • Neoprene/PVC: ใช้งานกับกรด–ด่าง/น้ำมันบางประเภท

  • PVA: เยี่ยมกับตัวทำละลายออแกนิกหลายชนิด แต่ แพ้น้ำ/ชื้น
    ข้อสังเกตจาก NIOSH: ไม่มีวัสดุ “ครอบจักรวาล”—วัสดุยอดนิยมครอบคลุมสารใน สัดส่วนที่จำกัด เท่านั้น จึงต้องเทียบ แผนภูมิความเข้ากันได้ ของแต่ละสารเสมอ

งานตัวทำละลาย, กรด-ด่างเข้มข้น, น้ำมัน/เชื้อเพลิง

เลือกวัสดุจาก สารเด่น ที่ต้องเจอ แล้วค่อยเช็ก BTT + DR บนฉลาก/ดาต้าชีตผู้ผลิตเพื่อยืนยันว่าทน ความเข้มข้น/อุณหภูมิ/เวลาสัมผัส ของงานจริง (แหล่งอ้างอิงที่ดี: HSE, NIOSH Pocket Guide)


ค่า EN 388 บอกอะไรกับงานสารเคมี (และข้อจำกัด)

แม้ EN 388 จะเน้นความเสี่ยงทางกล (ขีดข่วน/บาด/ฉีก/เจาะ) แต่ในงานสารเคมีจริง ๆ มักมี คม/สาก/ของมีคม แฝงอยู่—ค่า EN 388 สูงช่วยให้ถุงมือ ไม่ฉีกก่อนเวลา เมื่อเจอสาร + งานช่างไปพร้อมกัน อย่างไรก็ดี EN 388 ไม่ใช่ ตัวบอกความทนสารเคมี ต้องอ่านคู่กับ EN ISO 374 เสมอ


ANSI/ISEA 105-2024 มีอะไรอัปเดตที่ควรรู้

มาตรฐานสหรัฐฯ ANSI/ISEA 105-2024 ย้ำการจัดชั้นคุณสมบัติ (เช่น Cut A1–A9) และคุณสมบัติอื่น ๆ เพื่อช่วยผู้ใช้ ระบุระดับป้องกัน ที่ “ต้องมีอย่างน้อย” ตามความเสี่ยงงาน และเทียบผลิตภัณฑ์ต่างยี่ห้อได้เป็นระบบมากขึ้น เหมาะเมื่อคุณซื้อรุ่นที่ทำตลาดสหรัฐฯ หรือเทียบกับรุ่น EN


เช็กลิสต์ 10 ข้อ: ก่อนจ่ายเงินซื้อถุงมือกันสารเคมี

  1. รู้ สาร/ความเข้มข้น/อุณหภูมิ ที่เจอจริง

  2. งาน จุ่ม/สัมผัสต่อเนื่อง หรือ โดนกระเด็น

  3. ดู EN ISO 374-1 Type A/B/C และ รหัสสาร A–T บนฉลาก

  4. เช็ก Breakthrough Time สำหรับ สารเป้าหมาย

  5. ดู % Degradation (EN ISO 374-4) ว่าตกลงมากไหม

  6. ถ้ามี เชื้อ/ไวรัส ให้หาไอคอน EN ISO 374-5

  7. ตรวจ EN 388 ให้พอรับแรงขีดข่วน/คมในงาน

  8. เทียบ ANSI/ISEA 105 หากสินค้าเป็นตลาด US

  9. เลือก ความหนา/ความยาวแขน ให้เหมาะ (หนามาก=คล่องน้อย)

  10. วางแผน การถอดเปลี่ยน/ดับเบิลโกลฟ เมื่อสัมผัสนาน (งานวิจัยเสนอว่าถุงมือหนาขึ้นหรือใส่ซ้อนมีผลเพิ่มความทนในงานใช้แล้วทิ้ง)


ตัวอย่างการเลือกแบบจบใน 60 วินาที (เคสจำลอง 3 สถานการณ์)

  1. ล้างอ่างที่มี NaOH 30–40% (ด่างเข้มข้น), สัมผัสต่อเนื่อง

    • มองหา EN ISO 374-1 Type A และบนฉลากมีรหัส K; BTT สูง (≥30–60 นาที) + DR ต่ำ

    • มีงานช่างร่วม: เลือก EN 388 สูงขึ้น

  2. ห้องแลบ ใช้โทลูอีน/เฮกเซน เลอะกระเด็นเป็นหลัก

    • Type B อาจพอ ถ้ามีรหัส F/J และ BTT ≥30 นาที

    • ถ้าต้องจับชิ้นงานคม ๆ เพิ่ม EN 388

  3. ทำความสะอาดด้วยกรดซัลฟูริก 96% แบบจุ่มเร็ว ๆ

    • มองหารหัส L และ BTT ให้พอสำหรับเวลาจุ่ม + DR ดี

    • ถ้ามีความเสี่ยงกระเด็นเข้าข้อมือ ใช้ ปลอกยาว

หลักคิดของ HSE: เลือกจาก งาน–ผู้ใช้–สภาพแวดล้อม ก่อน แล้วค่อยเทียบฉลากมาตรฐานและข้อมูลจากผู้ผลิต

สนใจถุงมือกันสารเคมี >> คลิกที่นี่ <<

Leave a comment

Please note, comments must be approved before they are published

Add Order Note

    What are you looking for?

    Popular Searches:  Jeans  Dress  Top  Summer  SALE